กลไกติดตามและพัฒนา
นโยบายเพื่อสังคมสูงวัย
(Governing Mechanism)
ทำอย่างไรให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ของการออกแบบนโยบาย
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เข้าสู่สังคมสูงวัย นโยบายสาธารณะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการวางแผนและกำหนดทิศทางของภาคส่วนต่างๆ เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลง
จะดีกว่าไหม
หากประเทศไทยมีกลไกการติดตาม ทบทวน และพัฒนานโยบาย เพื่อรองรับสังคมสูงวัยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มองปัญหาในเชิงระบบ ร่วมมือกัน
จากหลายภาคส่วน
ไม่ได้มุ่งขับเคลื่อนผ่านกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
แต่ยังร่วมหารือกับภาคการเมือง ซึ่งมีบทบาทในการกำหนดนโยบาย และทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร
ภาพการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ณ อาคารรัฐสภา
ถนนอู่ทองใน 20 สิงหาคม 2552
โดย พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์
เกิดการออกแบบติดตามนโยบาย
ที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง
เพื่อให้มีนโยบายที่สนับสนุนให้เกิดบริการ
และสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ
ช่วยเอื้อให้ผู้สูงอายุพึ่งพาตัวเองได้มากที่สุด
ลดภาวะพึ่งพิงโดยไม่จำเป็น
แต่ปัจจุบัน การขับเคลื่อนนโยบายเพื่อรองรับสังคมสูงวัยของไทยยังไม่ชัดเจน และขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
แต่ยังมีความท้าทายหลายประการ
เพื่อให้เกิดระบบการบริการที่ตอบโจทย์
ขาดทิศทางของนโยบาย ที่ชัดเจนเพื่อการบูรณาการและทำงานร่วมกัน ภายใต้กระทรวงเดียวกัน หรือต่างกระทรวงอย่างมีประสิทธิภาพ
ความซ้ำซ้อนในการกำหนดและนำนโยบายไปปฏิบัติใช้
งบประมาณจำกัด และขาดการสนับสนุน การพัฒนาทักษะ และประเมินคุณภาพ ของบริการอย่างเป็นระบบ
ขาดองค์ประกอบและ มุมมองจากสื่อรวมถึง ภาคประชาสังคม
โจทย์สำคัญ
คือการหาคำตอบว่า กลไกดังกล่าวควรมีหน้าตาอย่างไร จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสร้างเจตจำนงทางการเมืองในเรื่องการรองรับสังคมสูงวัย
การออกแบบโครงสร้างบุคลากรและการทำงานของ คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยยึดหลักประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผ่านการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม
ข้อเสนอเชิงนโยบายสิ่งที่เกิดขึ้นจาก
กระบวนการ
Policy dialogue ไม่ได้มีแต่ผลลัพธ์เชิงเนื้อหา แต่ยังสามารถสร้างคุณค่าในการผลักดันเชิงนโยบาย
ผู้เข้าร่วมสะท้อนว่าวงหารือมีความ เป็นกันเอง ช่วยเปิดมุมมองที่แตกต่าง และสร้างการมีส่วนร่วม
พูดคุยกันง่ายขึ้น กว้างขึ้น แม้ว่าจะเคยร่วมงานกันมาก่อน เห็นความสำคัญในหัวข้อนี้และอยากมีส่วนร่วมต่อ อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องท่านอื่นๆ ได้รับรู้เช่นกัน
ผู้เข้าร่วมเห็นจุดร่วมและข้อสรุปที่ตรงกัน เห็นว่าควรมีกลไกติดตามเชิงนโยบาย
และไม่เห็นด้วยกับแนวทางการจัดตั้งองค์กร หรือกลไกใหม่ เนื่องจากจะยิ่งทำให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น แต่ควรใช้ประโยชน์จากกลไกที่มีอยู่เดิม เช่น “คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเตรียมความพร้อมรองรับสังคมสูงวัย” ภายใต้คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ (กผส.) และพิจารณาปรับการทำงานภายใต้กลไกเดิมแทน
มีความเห็นร่วมกันในหลายประเด็น อาทิ การทำให้บทบาทและผลงานของ กผส. เป็นที่รับรู้มากขึ้น ให้สังคมช่วยกันติดตามผลจากนโยบาย เป็นต้นเกิดการปฏิบัติจริงทันที
ส.ส. ที่มาร่วมในวงหารือนโยบายฯ ได้แจ้งในวงหารือว่า จะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรให้มีการพิจารณาตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและติดตามการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อรองรับสังคมสูงวัย และได้ยื่นญัตติเพื่อเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าวแล้ว
กรมกิจการผู้สูงอายุ พม. ได้เพิ่มรายชื่อคณะ อนุกรรมการฯ ในเว็บไซต์เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่าง เปิดเผยขึ้น โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่มีข้อมูลอยู่และเป็นประเด็นหารือว่าควรมีการเปิดเผยกับสาธารณะ
นโยบายสูงอายุที่คุณอาจสนใจ
การสูงวัยในถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม อย่างมีสุขภาวะ
(Aging in Place)
ระบบการดูแลผู้ป่วยระยะกลาง สำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในช่วง 6 เดือนทอง หลังพ้นภาวะวิกฤต
(Intermediate Care)
โครงสร้างเครือข่ายบริการสุขภาพระดับจังหวัด
(Local Service Delivery Network)
ระบบการดูแลระยะยาว สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
(Long-Term Care)